fbpx

Privacy Policy

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ฟีดแบค 180 จำกัด เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคค อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ในความเป็นส่วนตัวของบุคคลโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลย่อมมีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูลของตนได้รับการดูแลให้มีความมั่นคงปลอดภัย ประกอบกับกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบและคำสั่งที่เกี่ยวข้องได้กำหนดหลักเกณฑ์หรือมาตรการในการกำกับดูแลการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมการใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิต่างๆของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังมีข้อความต่อไปนี้

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

“คู่สัญญา” หมายถึง ผู้ว่าจ้าง คู่ค้า ผู้ร่วมงาน ซัพพลายเออร์ หรือบุคคลอื่นใดที่ทำสัญญากับบริษัทฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรของสำนักงาน หรือทำงานร่วมกับสำนักงาน ซึ่งรวมถึง ผู้มีอำนาจ ผู้แทน หรือผู้ติดต่อในนามลูกค้านิติบุคคล เจ้าของ  หรือบุคคล ธรรมดาอื่นใดที่เกี่ยวข้องที่บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม เก็บรวบรวม โดยการเก็บรวบรวมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับ ความสัมพันธ์ ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน และประเภทสินค้าหรือบริการที่ท่านต้องการจากบริษัทฯ

“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ซึ่งบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอก ผู้รับเหมา หรือคู่สัญญา หรือต้องทำหรือปฏิบัติตามสัญญากับบุคคลดังกล่าว

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนาม ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

2. บททั่วไป

นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดและวิธีการคุ้มครองและจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก ผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมา หรือคู่สัญญาของบริษัท โดยบริษัทอาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัท และหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป

บริษัทฯ จะดำเนินการฝึกอบรมพนักงานและผู้รับจ้างช่วงของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตระหนักความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และทำให้มั่นใจได้ว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนผ่านการฝึกอบรม และมีความรู้ความเข้าใจในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้สำหรับการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด และเป็นไปเพียงเท่าที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและตาม บทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานมีการจัดเก็บ

3.1 บริษัทฯ จะขอข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นในการทำธุรกิจร่วมกัน หรือตามที่กฎหมาย หรือตามที่องค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเท่านั้น

3.1 บริษัทฯ จะขอข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นในการทำธุรกิจร่วมกัน หรือตามที่กฎหมาย หรือตามที่องค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเท่านั้น

3.2 บริษัทฯ จะจัดให้มีการเก็บรักษาข้อมูลอย่างรัดกุม ปกปิด และเป็นความลับ โดยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผล หรือตามระยะเวลาขั้นต่ำของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

3.3 บริษัทฯ กำหนดหน้าที่ของผู้เก็บข้อมูล ผู้ประมวลผลข้อมูล ผู้รักษา ผู้ใช้ ผู้อนุมัติการใช้ รวมถึงขั้นตอน การตรวจสอบอย่างชัดเจน มีการบริหารจัดการการเข้าถึงข้อมูล ของผู้ใช้งาน เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาตการเปิดเผย เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลเหล่านั้นได้รับการรักษาเป็นความลับปลอดภัย และใช้งานโดยสุจริต

3.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ว่าจ้างได้เปิดเผยหรือนำส่งให้แก่บริษัทฯ เพื่อนำไปดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามขอบเขตงานที่ได้รับมอบหมายตามมาตรฐานและข้อกำหนด ตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

3.5 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัทฯ หรือหากท่านขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม ดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบาย ฉบับนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวนั้นทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวนั้น(หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม) โดยท่านควรตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ และแจ้งให้บริษัทฯ ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้ นอกจากนี้ ท่านยังมีหน้าที่ดำเนินการเพื่อให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลเหล่านั้นได้ตามกฎหมาย ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ด้วย

3.6 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ และผู้ไร้ความสามารถ ในบางกรณีตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือน ไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมของผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลได้ ดังนั้น หากเป็นข้อมูลของผู้ที่มีอายุ ต่ำกว่า 20 ปี คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ ท่านต้องดำเนินการให้มั่นใจว่าท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลแล้ว (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอม) ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ทราบว่าบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง หรือเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถโดยมิได้ รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลโดยไม่ได้เจตนา บริษัทฯ จะลบข้อมูลดังกล่าวทันที หรือเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เฉพาะในกรณีที่บริษัทฯ สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้

3.7 ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่ม อาจไม่สามารถดำเนินการจัดหาหรือส่งมอบสินค้า ปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ดำเนินการตามความสัมพันธ์ที่บริษัทฯ มีกับท่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไปได้ กรณีที่หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบคุณภาพ ให้แสดงเป็นความลับได้ตามปกติ และบันทึกการตรวจสอบไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

3.8 ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่บริษัทฯเก็บไว้ตามนโยบายนี้ ถือว่าเป็นข้อมูลในทางธุรกิจ บริษัทฯ จะเก็บรักษาเสมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สินข้อมูลของสมาคมเอง ผู้ใดละเมิด ทำลาย ทำให้เสียหาย หรือนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว บริษัทจะลงโทษถึงขั้นสูงสุด และดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเต็มจำนวนตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

3.9 การเก็บ รักษาใช้ การตรวจสอบทบทวน อนุมัติ หรือดำเนินการใดๆเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายนี้ให้เป็นความลับเท่าที่จำเป็น โดยหลักสุจริต และให้ถือว่าข้อมูลลับส่วนบุคคลนี้เป็นข้อมูลในระดับสูงสุด

4. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอก

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกประมวลผล โดยบริษัทฯ จะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตาม ที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น การแยกส่วนข้อมูล ก่อนส่งข้อมูลส่วนบุคคล การจัดส่งข้อมูลเท่าที่จำเป็น รวมถึงการมีข้อตกลงรักษาความลับหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้รับข้อมูลดังกล่าว

5. ระยะเวลา และมาตรการในการรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในรูปแบบของเอกสารและ/หรือด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบ อิเล็กทรอนิกส์ โดยจัด ให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ทั้งมาตรการป้องกันด้าน การบริหารจัดการมาตรการป้องกันด้านเทคนิค และทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขมาตรการต่างๆ ตามสมควร เพื่อป้องกันการ สูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบหรือกระทำโดย ปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจในการรักษาความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อการละเมิดการธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพพร้อมใช้งาน บริษัทฯ จะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาในการ เก็บรักษา ข้อมูลส่วนบุคคล

6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสิทธิตามกฎหมาย โดยเจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องขอ ของเจ้าของข้อมูล โดยไม่ชักช้าทั้งนี้หากมีกรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิเสธคำร้องขอ บริษัทฯ จะแจ้งเหตุแห่งการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลรับทราบ

6.1 สิทธิขอเพิกถอนความยินยอม หากเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอม ที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้ ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลา ที่ข้อมูลส่วนบุคคล อยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยบริษัทฯ จะแจ้งถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาการถอนความยินยอมดังกล่าวให้ท่านทราบ

6.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความ ยินยอม ทั้งนี้บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึง หรือขอรับสำเนานั้นส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น

6.3 สิทธิขอเข้าประเมินประสิทธิภาพการปฎิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6.4 สิทธิขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วย เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติรวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบ ดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติและมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าว ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อสามารถดำเนินการตามสัญญาได้ตามความประสงค์ หรือ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

6.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หากเจ้าของข้อมูล เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯไม่มีความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

6.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิ ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯไม่มีความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล เจ้าของข้อมูลขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer:DPO) หรือผู้ที่ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคล ตามช่องทางติดต่อที่ระบุไว้นโยบายฉบับนี้

7. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย

บริษัทฯ มีการพิจารณาทบทวนและอาจปรับปรุงแก้ไขนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและเป็นไป ตามกฎหมายทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข บริษัทฯ จะประชาสัมพันธ์ให้ท่านทราบผ่านทางช่องทางที่ เหมาะสม เช่น ประกาศในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นต้น

กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับนี้เป็นระยะเพื่อตรวจดูการแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบาย โดยบริษัทฯ จะแจ้งเตือน ให้ท่านทราบหากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่าน และขอความยินยอมจากท่านอีกครั้ง ในกรณีที่จำเป็น และ ตามที่กฎหมายกำหนด

8. ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ และ/หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ผ่าน ช่องทางดังต่อไปนี้ ในกรณีที่มีข้อเสนอแนะ หรือข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อได้ที่

ชื่อ-สกุล : นางวัชรีวรรณ ลือพัฒนสุข

ตำแหน่ง : ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล

E-mail Address : [email protected]

เบอร์โทรศัพท์ : 02-261-4088

ที่ตั้งบริษัท : บริษัท ฟีดแบค180 จำกัด 689 อาคารภิรัชทาวน์เวอร์ ชั้น18 ห้อง1806 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

วัน / เวลาทำการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ